Thursday, April 28, 2011

สูตร ลดรอยจุดด่างดำบนใบหน้า


จุดด่างดำบนใบหน้าเชื่อว่าหลายคนคงเคยมีประสบการณ์มาบ้าง แล้วก็หงุดหงิดว่าทำอย่างไรมันถึงจะหายไปจากหน้าได้ จุดด่างดำเหล่านี้เกิดหลังจากเป็นสิว แล้วก็เป็นสาเหตุให้ใบหน้าไม่ผ่องใส เหมือนเป็นรอยมลทินื ทำให้บนใบหน้ามีจุดด่างพร้อย แต่ต่อจากนี้คุณจะไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะมีวิธีที่จะเร่งให้รอยดำเหล่านั้นจางออกไปจากใบหน้าได้เร็วขึ้นดังนี้

อุปกรณ์
1. มะเขือเทศ 1 ผลใหญ่
2.
น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา


วิธีทำ
นำมะเขือเทศมาคว้านเอาแต่เนื้อ ทิ้งเปลือกไป นำเนื้อที่ได้มาบดให้ละเอียด แล้วใส่น้ำผึ้งลงไปคลุกให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงล้างออก

ผลลัพธ์
รอยจุดด่างดำจะค่อยๆจางลง เพราะมะเขือเทศมีกรดผลไม้ที่จะค่อยๆผลัดเซลล์ผิว น้ำผึ้งจะช่วยให้ผิวหน้าไม่แห้งตึง

Wednesday, April 27, 2011

หน้าใสด้วยของก้นครัว

ปรนนิบัติผิวหน้าให้อ่อนวัยด้วยส่วนประกอบที่หาได้ไม่ยากจากตลาดหรือของจากก้นครัว

-ทาวุ้นจากว่านหางจระเข้ทุกวันหลังจากตื่นนอนตอนเช้า และก่อนนอน สำหรับผู้ที่มีใบหน้าแห้งมาก ให้ผสมน้ำมันมะกอก หรือครีมทาหน้ากับว่านหางจระเข้


- นำใบบัวบกสดๆ มาปั่น จากนั้นใช้สำลีชุบน้ำใบบัวบกที่ได้มาพอกไว้บนหน้า ประมาณ 15 นาที ทำทุกวันก่อนนอน ช่วยชะลอความแก่ รักษาแผลเป็น ใบบัวบกช่วยในการสร้างเนื้ออ่อนขึ้นมาได้ และลดการอักเสบ

- ใช้มะขามเปียกหนึ่งกำมือ เอารกออก ล้างหน้าให้สะอาด ผสมกับนมสด 2 ช้อนโต๊ะ ขยำให้เข้ากัน นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วเติมน้ำผึ้งหนึ่งช้อนโต๊ะผสมให้เข้ากัน นำมาทาหน้า ทิ้งไว้ 5 นาที ล้างน้ำออก ควรทำวันละครั้งก่อนนอน

Monday, April 25, 2011

หน้านุ่ม เด้งดึ๋ง

สูตรนี้จะทำให้หน้านุ่มมาก ผิวหน้ารู้สึกเต่งตึง เด้งดึ๋ง

อุปกรณ์
นมสดรสจืด
สำลี


วิธีทำ
ล้างหน้าให้สะอาด แล้วเอานมชุบสำลีทาให้ทั่วหน้า นวดให้ซึมลงผิว ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก จากนั้นก็ลงครีมตามปกติ

มีอีกวิธีค่ะสำหรับคนที่มีเวลาไม่มาก แค่คุณเอานมไปแช่เย็น แล้วนำเอามาล้างหน้า ก็จะช่วยทำให้ผิวหน้าสดชื่นดีค่ะ แต่ถ้าแต่งหน้าเป็นประจำก็ควรล้างตามด้วยโฟมล้างหน้าอีกทีนะคะ จะได้มั่นใจว่าสะอาดแน่นอน

Saturday, April 23, 2011

เคล็ดลับผิวขาวที่จะทำให้คุณขาวได้ดั่งปรารถนา

ขอย้ำว่า คุณจะมีผิวขาวสวยสมใจได้ คุณต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด

1. หลบแแดด ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ใส่เสื้อแขนยาว กางร่ม ที่สำคัญ ห้ามขี้เกียจทากันแดดเด็ดขาด ควรทาก่อนออกจากบ้านประมาณ  30 นาที

2. สครับผิวเป็นประจำ เพื่อให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือเป็นตัวการทำให้ผิวคุณไม่สดใสถูกกำจัดออกไป แล้วเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิม ควรทำอย่างน้อย อาทิตย์บะ 2-3 ครั้ง

3. ใช้ AHA บ้าง จะช่วยผลัดผิวหมองคล้ำได้ แต่ก็ควรระวัง ถ้าใช้มากเกินไป ผิวอาจแพ้หรือบางได้

4. หลังอาบน้ำเสร็จแล้ว เช็ดตัวให้หมาดๆ แล้วชโลมครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวเก็บความชุ่มชื่นจากครีมได้เต็มที่ และควรเป็นครีมที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง

ข้อแนะนำ ให้คุณทาออยล์ลงบนผิวก่อน ทิ้งไว้สักพักแล้ว ค่อยทาครีม ทำเป็นประจำทุกวัน เพียงแค่นี้ผิวคุณจะนุ่มเนียน สวยใสได้แล้ว

5. ควรเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อที่เวลานอนหลับ ผิวของคุณจะได้ทำการฟื้นฟูและซ่อมแซมได้อย่างเต็มที่

6. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว อันนี้น่าจะได้ยินกันบ่อยๆ อย่าลืมทำตามกันนะ

7. กินผักผลไม้และอาหารให้ครบ 5 หมู่

8. ขับถ่ายเป็นประจำ

9. พยายามเอามือไปจับหน้า เพราะวันๆ นึงมือของเราจับนู่นจับนี่มาตลอดทั้งวัน ถ้าจะจับหน้าก็ควรล้างมือ
ให้สะอาดก่อน เพื่อป้องกันการก่อให้เกิดสิว

10. ทานวิตามินเสริมบ้าง

ทำทั้งหมดนี้ คุณก็จะมีสภาพผิวที่ดีขึ้น ขาวใส เนียนแน่นอนค่ะ

Friday, April 22, 2011

สูตร ลดรอยจุดด่างดำบนใบหน้า


สูตรลดริ้วรอยจุดด่างดำบนใบหน้า
จุดด่างดำบนใบหน้าที่เกิดหลังจากเป็นสิว เป็นสาเหตุให้ใบหน้าไม่ผ่องใส ก็มีวิธีที่ทำให้รอยดำเหล่านั้นจางออกไปจากใบหน้าได้เร็วขึ้นดังนี้

สูตร ลดรอยจุดด่างดำบนใบหน้า

1.
มะเขือเทศ 1 ผลใหญ่
2.
น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา


วิธีทำ
นำมะเขือเทศมาคว้านเอาแต่เนื้อ ทิ้งเปลือกไป นำเนื้อที่ได้มาบดให้ละเอียด แล้วเทน้ำผึ้งลงไปผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงล้างออก

ผลลัพธ์
รอยจุดด่างดำจะค่อยๆจางลง เพราะมะเขือเทศมีกรดผลไม้ที่จะค่อยๆ ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป และน้ำผึ้งจะช่วยให้ผิวหน้าไม่แห้งตึง

ผิวสวยด้วยคอลลาเจน

คอลลาเจน เป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนังของร่างกาย
ซึ่งประกอบกันเป็นเครือข่ายชั้นผิวหนัง และเป็นโปรตีนสำคัญต่อความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด และช่วยสร้างความตึงกระชับให้ผิว โดยจะทำงานร่วมกับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า อีลาสติน
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจน คือ อนุมูลอิสระที่เกิดจากมลพิษต่างๆ เช่น บุหรี่ แสงแดด สารปนเปื้อนในอาหาร และจากการเผาผลาญอาหารในร่างกาย ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย และเมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป การผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดลงเรื่อยๆ ตามอายุ
เมื่อขาดคอลลาเจน ผิวพรรณที่เคยสวยเต่งตึงจะเริ่มหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น ความยืดหยุ่น และความชุ่มชื้นลดลง
การเติมคอลลาเจนให้กับผิวเพื่อหวังผลในการชะลอริ้วรอย ในวงการแพทย์สามารถทำได้โดยการฉีดคอลลาเจนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนในเครื่องสำอางก็มีการนำคอลลาเจนไปผสม สังเกตได้จากฉลากที่ระบุส่วนผสมของ ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ อีลาสติน โปรคอลลาเจน เอเอชเอ 
นอกจากนั้นการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
ซึ่งจะช่วยชะลอการสลายตัวของคอลลาเจน และช่วยลดการเกิดมะเร็งในร่างกายอีกด้วย สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็ได้แก่ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี ซึ่งเป็นสารที่มีประสิทธิภาพสูง ในการกำจัดอนุมูลอิสระมีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรง ของเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสติน 

Wednesday, April 20, 2011

ผิวหน้าสดใสจากห้องครัว

บำรุงรักษาผิวหน้าให้อ่อนวัยด้วยส่วนประกอบที่หาได้ง่ายๆจากตลาด หรือท้ายครัวที่บ้าน
- ทาวุ้นจากว่านหางจระเข้ทุกวันหลังจากตื่นนอนตอนเช้า และก่อนนอน สำหรับผู้ที่มีใบหน้าแห้งมาก ให้ผสมน้ำมันมะกอก หรือครีมทาหน้ากับว่านหางจระเข้
- นำใบบัวบกสดๆ มาปั่น จากนั้นใช้สำลีชุบน้ำใบบัวบกที่ได้มาพอกไว้บนหน้า ประมาณ 15 นาที ทำทุกวันก่อนนอน ช่วยชะลอความแก่ รักษาแผลเป็น ใบบัวบกช่วยในการสร้างเนื้ออ่อนขึ้นมาได้ และลดการอักเสบ 

ทำให้ผิวหน้าขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ

เตรียม สูตรหน้าขาว ใสกริ๊ง
1.
แป้งดินสอพอง
2.
ขมิ้นหรือไพร
3.
มะขามเปียกหรือมะนาว

วิธีทำ
ละลายดินสอพองไม่ต้องแฉะมากให้พอข้น แล้วผสมไพรหรือขมิ้น และมะนาวหรือมะขามเปียก ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ให้แห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ใบหน้าของคุณก็จะขาวใสขึ้น

ผลลัพธ์

ผิวหน้าจะขาวใสกริ๊งขึ้น

Tuesday, April 19, 2011

หน้าขาวใสกับยาคูลท์



สูตรนี้ไม่ยุ่งยากมาก แค่คุณมีดินสอพองกับยาคูลท์ หรือจะใช้นมเปรี้ยวยี่ห้ออื่นแทนก็ได้ แค่ 2 อย่างนี้ก็สามารถเนรมิตให้คุณมีผิวหน้าสวยขาวใสได้แล้ว


อุปกรณ์
ดินสอพอง ประมาณ 1-3 สะตุ
ยาคูลท์ ประมาณ 2-3 ช้อนชา อาจมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับเวลาผสม

นำ 2 อย่างมาผสมกัน คนให้ดินสอพองละลายกับยาคูลท์ ไม่ให้เหลวมาก  เสร็จแล้วล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าให้แห้ง หลังจากนั้นนำมาทาให้ทั่วหน้าประมาณ 10-15 นาที ให้รู้สึกแห้งหรือตึง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วทาครีมเป็นปกติ ทำสม่ำเสมอ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เท่านี้คุณก็จะได้ผิวหน้าขาวใสสมใจ


                                                        

Sunday, April 17, 2011

27 วิธีเพื่อผิวขาวใส

          ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่นั้นรักสวยรักงาม ปรารถนาที่จะมีผิวหน้าและผิวกายที่สวยใส และผิวขาว บางคนคิดว่าการมีผิวขาวเป็นเรื่องที่ทำยาก บางคนคิดว่าการมีผิวขาวเป็นเรื่องง่าย แต่มันจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แค่คุณลองทำตามขั้นตอนวิธีด้านล่างนี้ ผิวขาวใสก็จะไม่ยากอีกต่อไป
          
        1. การขัดผิว (Exfoliating) หมายถึง การขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิวหน้าหรือลำตัว เป็นวิธีทําให้ผิวขาว โดยธรรมชาติ รากศัพท์ของมันมาจากคำว่า "foliage" ซึ่งแปลว่าใบพืช เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า อิพิเดอร์มิส (Epidermis) หรือผิวหนังชั้นนอกเกิดขึ้นมาโดยผ่านกระบวนการสร้างจนมาเติบโตเต็มที่อยู่ชั้นบนสุดของผิวหนัง โดยเซลล์ที่อยู่ล่างสุดของชั้นนี้ที่เรียกว่า เซลล์แรกเริ่ม (Basal Cells) จะสร้างเซลล์ลูกซึ่งจะเคลื่อนตัวขึ้นไปจนกลายเป็นผิวชั้นนอก เซลล์เหล่านี้มีหน้าที่เป็นตัวกั้นระหว่างร่างกายเรากับสิ่งแวดล้อมภายนอก ทั้งยังช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นภายในและป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ผิวหนังของเรา หลังจากเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงกว่าอยู่ประจำที่บนชั้นผิวหนังแล้ว เซลล์ผิวเก่าก็จะหลุดลอกออกโดยธรรมชาติ หากยังตกค้างอยู่บนผิวก็จะทำให้ผิวดูไม่มีชีวิตชีวา และดูเป็นสะเก็ด การขัดหน้าจึงเป็น วิธีทําให้ผิวขาว อีกทางเลือกหนึ่งในการกำจัดเซลล์เก่าที่บดบังความสดใสนั่นเอง

          2. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการขัดผิ ก็ได้แก่ ฟองน้ำขัดรูปแบบต่างๆ เช่น ใยบวบ หรือครีม เช่น เอเอชเอ แม้กระทั่งผ้าเช็ดตัวก็สามารถใช้ขัดผิวได้ การขัดผิวอย่างนุ่มนวลจะช่วยให้ผิวของคุณดูชุ่มชื่นและใสกระจ่าง

          3. ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวด้วยวิธีรุนแรง ไม่ควรขัดผิวหรือทำรุนแรงกับผิวมากเกินไป เพราะเป็นการรบกวนหน้าที่ในการสกัดกั้นสิ่งแปลกปลอมของผิว รวมถึงทำให้ผิวอ่อนไหวมากขึ้นจนเกิดความแห้งกร้าน ไหม้แดด แพ้ หรือเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ง่าย

          4. ถ้าไม่กำจัดออกไป ผิวจะเกิดการอุดตันและหายใจไม่ได้ ผลก็คือ ผิวจะหม่นหมอง ไม่สดใส ดูแล้วมีความมัน หรือบางทีอาจทำให้เกิดสิวอุดตัน รวมทั้งทำให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตใต้ผิวไม่ดี ทำให้ของเสียเกิดการหมักหมม

          5. ถ้าต้องการขัดผิวหน้า ควรทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง และขัดผิวกายเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ถ้าใครมีเซลลูไลท์ แนะนำให้เน้นขัดผิวบริเวณส่วนนั้นทุกวัน โดยใช้ถุงมือผ้าที่ใช้สำหรับอาบน้ำนวดขัด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และกำจัดของเสียออกทางระบบน้ำเหลือง

          6. วิธีการขัดผิวที่ถูกต้อง ซึ่งเป็น วิธีทําให้ผิวขาว ใสขึ้น สิ่งที่ต้องมีคือ ฟองน้ำสำหรับขัดผิววกาย ถุงมือผ้า อาบน้ำหรือใยบวบ และผลิตภัณฑ์ขัดผิว เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ถ้าไม่แน่ใจลองปรึกษาคนขายหรือหาข้อมูลเพิ่มจากอินเตอร์เนท

          7. เริ่มต้นที่ทำผิวเปียก นำผลิตภัณฑ์ขัดผิวเทใส่ใยบวบ ฟองน้ำ หรือถุงมือ แล้วทาลงบนผิวเบาๆ นวดผลิตภัณฑ์บนผิวด้วยการวนมือเป็นลักษณะวงกลมเบาๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียน ใช้น้ำ
ล้างออกให้สะอาด ซับให้แห้ง แล้วชโลมครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นในขณะที่ผิวยังชื้นอยู่ เนื่องจากครีมจะซึมสู่ผิวได้ดี

          8. ผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิวควรเลือกที่เป็นครีมหรือเจล เนื้อครีมควรมีลักษณะเป็น เม็ดกลม เพื่อปกป้องผิวจากการระคายเคือง บาดผิวหรือเป็นแผลถลอก ขณะที่ขัดนวดผิวบริเวณนั้นควรมีความชื้นพอหมาด แล้วล้างออกด้วยน้ำมากๆ

          9. ใยบวบ หรือใยขัดธรรมชาติ เป็นอุปกรณ์ขัดผิวที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ถ้าออกแรงขัดมากเกินไป อาจทำให้แสบผิวได้ เพราะใยเหล่านี้มีลักษณะสาก และหยาบ เวลาขัด จึงควรขัดเบาๆ ไปทั่วร่างกายขณะอาบน้ำ และเมื่อใช้เสร็จแล้วควรล้างทำความสะอาดและผึ่งให้แห้ง

          10. การใช้ผ้าสำหรับถูตัว หรือฟองน้ำถูตัวเวลาอาบน้ำ ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งของการขัดผิว และ วิธีทําให้ผิวขาว โดยใช้ร่วมกับสบู่ หรือเจลอาบน้ำก็ได้

          11. เลียนแบบจากสปาชั้นนำ โดยการใส่น้ำให้เต็มอ่าง เติมเกลือเม็ดลงไป แล้วเวลาที่ลงไปแช่ตัวอยู่ในอ่างให้ใช้เกลือ 1 กำมือ ขัดไปมาเบาๆ ให้ทั่วตัว และล้างตัวด้วยน้ำสะอาด

          12. แปรงแปรงผิวสามารถใช้ได้ดี โดยขัดเบาๆ บนผิวที่แห้งก่อนอาบน้ำ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป หรือจะใช้ในขณะอาบน้ำร่วมกับสบู่ หรือเจลอาบน้ำก็ได้

          13. การปรนนิบัติผิวให้นุ่มนวลขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น ควรเริ่มด้วยการใช้น้ำมันนวดผิวก่อนนอาบน้ำ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนของการขัดผิว เพื่อช่วยปรนนิบัติ ผิวสะอาดหมดจด สวยเนียนสดใสไปอีกนานๆ

          14. เราสามารถทำครีมขัดผิวใช้เอง โดยการใช้เกลือเม็ดเล็กๆ ผสมกับน้ำมันทาผิว (Baby Oil) หรือน้ำมันมะกอกทาทั่วตัวทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที นวดให้ทั่ว แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

          15. สครับสำเร็จรูปมักมีลักษณะคล้ายๆ กัน คือมีบีด (bead) ซึ่งอาจทำจากเกลือ, น้ำตาล, อัลมอนด์ ฯลฯ ช่วยในการขัดผิว มีน้ำมันช่วยหล่อลื่นมีกลิ่นหอม อีกทั้งมีส่วนประกอบในการบำรุงผิวอีกหลายชนิด

          16. เราสามารถทำสครับใช้เองง่ายๆ ด้วยการใช้ผักผลไม้ชนิดที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ในตัวเดียว คือมีผิวสัมผัสที่ให้ความหยาบเล็กน้อย แต่ต้องไม่ถึงกับให้ผิวระคายเคือง มีน้ำช่วยหล่อลื่นและมีวิตามินนตรงกับความต้องการ

          17. มะขามเปียก, สับปะรด มีเส้นใยช่วยขจัดขี้ไคล มีความเป็นกรด ช่วยทำความสะอาดผิว เป็น วิธีทําให้ผิวขาว ใส มีวิตามินซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์สูง มะละกอมีเอนไซม์อ่อนๆ ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว วิตามินสูง แต่เนื้อมีความละเอียดมาก มะนาวเป็นกรด เหมาะใช้กับผิวส่วนที่หยาบกร้าน เช่น ข้อศอก, ส้นเท้านุ่มขึ้น แตงกวาช่วยให้ผิวสดชื่น แล้วช่วยบรรเทาการถูกแดดเผาไหม้ผิว มะพร้าวขูดมีน้ำมันช่วยบำรุงผิว แต่ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งมากต้องระวัง ลองใช้ส้มเช้งมีคุณสมบัติ คล้ายสองชนิดแรก แต่ไม่เป็นกรดมาก

          18. ถ้าคุณเลือกส่วนผสมหลักที่มีความพร้อมในตัวเดียว เช่น มะขามเปียกก็สามารถนำมาสครับได้เลย แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไป เพราะอาจระคายเคืองได้ แต่ถ้าเลือกมะละกอก็ควรหาสิ่งที่เป็นบีดเพิ่มเข้าไปด้วย เพราะบีดช่วยเพิ่มความสากในสครับ ทำให้สามารถขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ง่ายขึ้น

          19. เพื่อความปลอดภัยควรเลือกสิ่งที่อยู่ในครัวเรือนและมีโอกาสแพ้น้อยที่สุด เช่น เกลือมีฤทธิ์ช่วยสมานผิว, ข้าวสารบดละเอียดช่วยให้ผิวขาว, น้ำตาลทรายมีทั้งความสากและความหนืดอยู่ในตัวเอง, งาเนื้อไม่หยาบเกินไป มีน้ำมันอยู่ในตัวช่วยลดความระคายเคือง และกาแฟกระตุ้นให้ร่างกายขับสารพิษ สิ่งที่ควรระวังคือบีดบางชนิดมีเหลี่ยมคม จึงต้องนำมาบดให้ละเอียดก่อน นอกจากนั้นอาจเพิ่มน้ำมันลงปไปเพื่อช่วยลดการเสียดสี

          20. ถ้าคุณมีผิวมัน ใช้มะขามเปียกหรือสับปะรดซึ่งมีความเป็นกรดช่วยขจัดความมันผสมกับเกลือ มีฤทธิ์ช่วยสมานผิว เติมโยเกิร์ตช่วยบำรุงผิวก็ได้

          21. ถ้าคุณมีผิวแห้ง ใช้ส้มเช้งเป็นส่วนผสมหลัก...ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นแว่นพอจับถนัดมือ ใส่งาขาวเป็นตัวช่วยขัด เพิ่มน้ำมันมะกอกเล็กน้อยลดความระคายเคือง

         
22. ถ้าคุณมีผิวแพ้ง่าย ใช้แค่งาขาว, งาดำผสมน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ตก็พอ

          23. การใช้น้ำมัน จุดประสงค์สำคัญคือช่วยหล่อลื่น และเป็นตัวช่วยลดความเข้มข้นของกรดสำหรับคนผิวแห้งเช่น ถ้าคุณต้องการใช้สับปะรดขัดผิว แต่เกรงว่าผิวจะแห้ง เกินไป การเพิ่มส่วนผสมน้ำมันก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากช่วยให้ลื่นแล้ว น้ำมันยังช่วยเคลือบผิวไม่ให้มีการสูญเสียน้ำมากเกินไป

          24. การเพิ่มนม, โยเกิร์ต, น้ำผึ้ง หรืออื่นๆ ที่ช่วยบำรุงผิว เป็น วิธีทําให้ผิวขาว ที่สามารถทำได้ แต่ต้องดูไม่ให้สครับข้นหรือเหลวเกินไป ลักษณะของสครับที่ดีควรมีความหนืดเล็กน้อย จับตัว อยู่บนผิวได้ และสะดวกแก่การขัด

          25. ใครที่ชอบความหอมรื่นรมย์ สามารถเติมกลิ่นด้วยการหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลง
ไป 2-3 หยด ซึ่งต้องเป็นน้ำมันหอมระเหยสำหรับนวดตัว ซึ่งมักผสมที่ความเข้มข้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่สำหรับใส่เตาเผาน้ำมันเพราะน้ำมันหอมระเหย เข้มข้นจะทำให้ผิวไหม้

          26. คนที่มีโรคเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง เช่น ต่อมน้ำเหลืองอักเสบรุนแรง, ต่อมน้ำเหลือง-โต, มีแผลเป็นหนอง หรือแม้แต่เป็นสิวอักเสบ ควรงดการสครับชั่วคราวจนกว่าจะหายเพราะการขัดเป็นการกระตุ้นให้อักเสบมากขึ้น

          27. ถ้าจะสครับหน้าต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนที่สุด ขัดอย่างเบามือเพื่อกระตุ้นน้อยๆ เน้นไปที่ร่องจมูก เลี่ยงจุดที่บอบบางมากๆ เช่น รอบดวงตา  

          ลองทำตาม วิธีทําให้ผิวขาว แบบธรรมชาติๆ ตามที่แนะนำกันไปดูนะคะ รับรองว่าคุณจะมีผิวสวย จะกระจ่างใส แบบปลอดภัยและเห็นผลค่ะ  

ข้อมูลจาก  247 City Magazine